เมืองอัจฉริยะ ฉบับ นายกฯ เทศบาลเมืองบางกรวย ผู้เปลี่ยนความท้าทายสู่ท้องถิ่นอัจฉริยะตอบโจทย์พื้นที่-ประชาชน

การเข้าถึงบริการของประชาชน ประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร และการสื่อสารกับประชาชน คือความท้าทายสำคัญที่หลายท้องถิ่นต้องเผชิญ หลายคนแนะนำว่าให้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อก้าวสู่ท้องถิ่นอัจฉริยะ แต่คำถามที่ใหญ่กว่าคือ จะพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างไรให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่อย่างแท้จริง
เบดร็อค อนาไลติกส์ จะพาไปรู้จักแนวทางและประสบการณ์ตรงจาก คุณสุรศักดิ์ วิชินโรจน์จรัล นายกเทศมนตรีเมืองบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ผู้บริหารที่มองไกลและเข้าใจท้องถิ่นของตน จนสามารถเปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะที่สอดคล้องกับพื้นที่ และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้จริง

จากความท้าทาย เปลี่ยนเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาเทศบาลเมืองบางกรวย
ตลอดเส้นทางการทำงานด้านการบริหารท้องถิ่น ผมได้เผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะในเรื่อง “การเข้าถึงบริการของประชาชน” และ “ประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร” เนื่องจากที่ผ่านมา กระบวนการดำเนินงานยังต้องพึ่งพาเอกสารจำนวนมาก ขณะที่หน่วยงานแต่ละฝ่ายต่างทำงานแยกส่วน ข้อมูลไม่เชื่อมโยงกัน ส่งผลให้ประชาชนต้องเสียเวลาเดินทางหลายครั้งกว่าจะได้รับบริการครบถ้วน
อีกหนึ่งความท้าทายสำคัญคือ “การส่งเสริมการมีส่วนร่วม” และ “การสื่อสารกับประชาชน” ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งข่าวสารหรือการรับฟังปัญหา ซึ่งล้วนต้องใช้ทรัพยากร ทั้งกำลังคนและเวลาอย่างมาก เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันได้อย่างทันท่วงที
จุดเปลี่ยนสำคัญ สู่การใช้เทคโนโลยีเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนของเทศบาลเมืองบางกรวย
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เทศบาลเมืองบางกรวยเลือกนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการเมือง เกิดจากความตั้งใจที่จะวางรากฐานให้เมืองก้าวสู่การเป็น “เมืองอัจฉริยะ (Smart City)” ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่แนวคิดการพัฒนาเมืองทั่วไปเท่านั้น แต่จะทำอย่างไรให้เมืองอัจฉริยะตอบโจทย์และเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่เราเอง
ผมจึงเลือกเริ่มจากการปลดล็อกอุปสรรคของท้องถิ่นด้วยเทคโนโลยี โดยได้ร่วมมือกับบริษัท เบดร็อค อนาไลติกส์ จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ และข้อมูลเชิงพื้นที่ โดยเริ่มจากการปรับปรุงระบบเอกสาร ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน เชื่อมโยงฐานข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างระบบที่ทั้งประชาชนก็เข้าถึงบริการได้สะดวกขึ้น และองค์กรก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น
- ระบบฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศ (GIS): ใช้ในการบริหารจัดการชุมชน ความปลอดภัย โครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงงานด้านสาธารณสุข การส่งเสริมสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และสวัสดิการสังคม
- ติดตั้งระบบ IoT และเชื่อมโยงข้อมูล: สำหรับติดตามและบริหารจัดการปัญหาสำคัญและสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น น้ำท่วม ฝุ่นละออง
- การเปิดข้อมูลเมือง (Open Data): เพื่อสร้างความโปร่งใส และเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนและภาคเอกชนสามารถนำข้อมูลไปต่อยอดใช้ประโยชน์

“ความเชื่อมั่นของประชาชนที่เพิ่มขึ้น” คือผลลัพธ์จากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาเมือง
สิ่งที่ประทับใจที่สุดหลังจากการใช้เทคโนโลยีของ เบดร็อค อนาไลติกส์ ก็คือความไว้วางใจจากประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น การนำระบบฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศ (GIS) มาใช้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายสามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลเดียวกันได้ ส่งผลให้การบริการประชาชนสะดวกและรวดเร็วขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงหรือก่อสร้างถนน การตรวจสอบสิทธิด้านสวัสดิการต่าง ๆ ที่จากเดิมอาจต้องใช้เวลาหลายวัน แต่ตอนนี้สามารถดำเนินการได้ภายในเพียง 1–2 วัน
อีกตัวอย่างคือ โครงการติดตั้งระบบโทรมาตร ในพื้นที่พระราม 7 (ระบบทดสอบ) ซึ่งช่วยให้เทศบาลสามารถแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมได้ทันท่วงที และยังทำให้การวางแผนจัดการน้ำมีความแม่นยำมากขึ้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือประชาชนสามารถเตรียมตัวรับมือกับน้ำท่วมได้อย่างมั่นใจ ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินได้จริง

คุณสุรศักดิ์ วิชินโรจน์จรัล นายกเทศมนตรีเมืองบางกรวย เชื่อว่า ความสำเร็จของการเปลี่ยนผ่านจากท้องถิ่นแบบเดิมสู่เมืองอัจฉริยะ ไม่ได้มาจากเทคโนโลยีดิจิทัลที่พัฒนาร่วมกับเบดร็อค อนาไลติกส์ เท่านั้น แต่ยังเกิดจากการสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่ทุกฝ่ายพร้อมเปิดใจเรียนรู้ และทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ จึงทำให้เทคโนโลยีเกิดคุณค่าอย่างแท้จริง
หากสนใจโซลูชันด้านระบบ GIS ระบบโทรมาตร และ Open Data จากเบดร็อค อนาไลติกส์ เพื่อนำไปพัฒนาท้องถิ่นอัจฉริยะของคุณ สามารถติดต่อได้ที่อีเมล: [email protected] หรือ Line หรือ Facebook
ขอบคุณภาพประกอบ: