น้ำท่วมปีนี้พร้อมรับหรือยัง? เปลี่ยนวิธีจัดการน้ำท่วมยุคใหม่ ด้วยข้อมูลและ AI จากเบดร็อค อนาไลติกส์

หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้การบริหารจัดการน้ำท่วมล่าช้า หรือแจ้งเตือนไม่ทันท่วงที คือปัญหาด้านข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ไม่เชื่อมโยงกัน ข้อมูลไม่อัปเดต ข้อมูลไม่แม่นยำ หรือขาดข้อมูลภาพรวมที่ใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากความท้าทายนี้ เบดร็อค อนาไลติกส์ จึงพัฒนาแพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติ ที่ผสานเทคโนโลยี AI, IoT และ Machine Learning เข้ากับการบริหารข้อมูลเชิงพื้นที่อย่างครบวงจร ตั้งแต่การเก็บและเชื่อมโยงข้อมูล การติดตามสถานการณ์เรียลไทม์ การวิเคราะห์สถานการณ์ ไปจนถึงการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยง การแจ้งเตือนล่วงหน้า และการคำนวณเส้นทางการเข้าช่วยเหลือ เพื่อช่วยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมได้รวดเร็ว มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ถูกต้อง และสื่อสารแจ้งเตือนได้ทันท่วงที
1. จัดการข้อมูลง่าย เห็นภาพชัด บริหารสถานการณ์ได้ทันที
เปลี่ยนการเก็บข้อมูลจากกระดาษหรือไฟล์ Excel ให้กลายเป็นแดชบอร์ดดิจิทัลแบบอัตโนมัติ ที่รวบรวมและประมวลผลข้อมูลจากพื้นที่จริงเข้าสู่ระบบโดยตรง ช่วยลดภาระงาน ลดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ และเพิ่มความรวดเร็วในการบริหารจัดการข้อมูล
โดยข้อมูลทั้งหมดจากการสำรวจ ฐานข้อมูลภายใน หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหลายหลายแหล่ง จะถูกประมวลผลและแสดงผลผ่านแผนที่จำลองและแดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย ใช้งานได้จากทุกที่ทุกเวลา ทำให้มองเห็นภาพรวมได้ทันที ตั้งแต่สถานการณ์ปัจจุบัน พื้นที่เสี่ยง พื้นที่ปลอดภัย ผลกระทบที่คาดการณ์ได้ ไปจนถึงข้อมูลครัวเรือน ปริมาณน้ำ และทิศทางการไหลของน้ำแบบเรียลไทม์จากโทรมาตรและกล้อง CCTV ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจ วางแผน และสั่งการได้ทันท่วงที
2. รวมข้อมูลครบในที่เดียว
ระบบสามารถรวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลจากภายในหน่วยงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ในศูนย์กลางที่เดียว ผ่านฐานข้อมูลดิจิทัลและแดชบอร์ดของแพลตฟอร์ม ทำให้เห็นภาพสถานการณ์ได้ครบถ้วนในทุกมิติ ทั้งข้อมูลย้อนหลังและข้อมูลปัจจุบันที่ซ้อนทับกันได้หลายชั้นข้อมูล จึงสามารถวิเคราะห์และพยากรณ์สถานการณ์น้ำท่วมได้แม่นยำขึ้น วางแผนบริหารพื้นที่เสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตัดสินใจได้รวดเร็วกว่าเดิม
3. AI และ IoT ติดตามและตรวจจับจุดเสี่ยงน้ำท่วมแบบเรียลไทม์
เบดร็อค อนาไลติกส์ ใช้เทคโนโลยี IoT ตรวจวัดระดับน้ำอัตโนมัติ ติดตั้งตามจุดสำคัญ เช่น สถานีสูบน้ำ พื้นที่ต้นน้ำ หรือพื้นที่เสี่ยง เพื่อเก็บข้อมูลระดับน้ำแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งใช้โดรนสำรวจภาพทางอากาศ และ CCTV ตรวจสอบพื้นที่ที่ไม่มีระบบโทรมาตร ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลของเมืองโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ระบบ AI และ Machine Learning วิเคราะห์และซ้อนทับข้อมูลจากหลายแหล่ง ช่วยติดตามสถานการณ์น้ำแบบต่อเนื่อง คาดการณ์แนวโน้มน้ำท่วมล่วงหน้า และจัดลำดับพื้นที่ที่ต้องได้รับการช่วยเหลือหรืออพยพก่อนอย่างมีประสิทธิภาพ

4. ที่ปรึกษาพร้อมดูแล พร้อมปรับระบบให้ตรงบริบทของท้องถิ่น
เบดร็อค อนาไลติกส์ มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา อบรม และติดตามการใช้งานอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแต่งระบบให้เหมาะกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ทั้งด้านข้อมูล โครงสร้างพื้นฐาน และการใช้งานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้แพลตฟอร์มสามารถนำไปใช้ได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องในระยะยาว
การันตีผลลัพธ์จากการใช้งานจริงในเทศบาลนครยะลา
เทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา นำ “ระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ” มาบริหารจัดการภัยพิบัติแบบครบวงจรในเขตเทศบาล โดยมีการติดตั้งโทรมาตรและเซนเซอร์ IoT วัดระดับน้ำ ปริมาณฝน และอัตราการไหลของน้ำในบริเวณต้นน้ำและแหล่งน้ำสำคัญ พร้อมเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับแพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเมืองของเทศบาล ที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในการวิเคราะห์และคาดการณ์สถานการณ์ได้แบบเรียลไทม์ จึงทำให้เทศบาลสามารถติดตามสถานการณ์น้ำได้แบบเรียลไทม์ คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า วางแผนอพยพ และจัดลำดับความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ล่าสุดการพัฒนาระบบบริหารจัดการอุทกภัย ของเทศบาลนครยะลานี้ ได้รับรางวัล Smart City Solutions Awards 2025 ด้านการบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) ระดับดี จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)

หากท้องถิ่นของคุณกำลังมองหาแนวทางรับมือและวางแผนน้ำท่วมปีนี้ ด้วยการผสานข้อมูล AI และ IoT แพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติอัจฉริยะ จาก เบดร็อค อนาไลติกส์ คือเครื่องมือยุคดิจิทัลที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ท้องถิ่นบริหารจัดการน้ำท่วมได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพจริง สนใจร่วมพัฒนาไปกับทีมเบดร็อค อนาไลติกส์ ปรึกษาฟรี ได้เลยที่อีเมล: [email protected] หรือ Line หรือ Facebook